ข้อควรรู้เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT
จดภาษีมูลค่าเพิ่มตอนไหน
กรณีมีรายรับเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ให้ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 30 วัน นับแต่วันที่รายรับเกิน โดยยื่นแบบขอจดทะเบียนกับสำนักงานสรรพากรอำเภอที่กิจการต้องอยู่
ภาษีมูลค่าเพิ่ม คืออะไร
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็นภาษีทางอ้อมประเภทหนึ่งตามกฎหมายประมวลรัษฎากร ซึ่งปัจจุบันจัดเก็บภาษีในอัตรา 7% ของราคาสินค้า หรือการให้บริการ การจำหน่ายสินค้า หรือ บริการภายในประเทศไทย และนำเข้าจากต่างประเทศ เป็นต้น
หลักการภาษีมูลค่าเพิ่ม
ภาษีมูลค่าเพิ่มที่นำมาใช้จัดเก็บในประเทศไทยเป็นระบบภาษีที่มุ่งจัดเก็บจากการบริโภค โดยไม่จัดเก็บจากการลงทุน จึงยอมให้ผู้ประกอบการนำภาษีมูลค่าเพิ่ม "ภาษีซื้อ" จากการลงทุนในทรัพย์สิน หรือรายจ่ายในการดำเนินกิจการทั้งหลาย มาเครดิตหักออกจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการได้เรียกเก็บจากการขายสินค้าหรือให้บริการ "ภาษีขาย" ทำให้ผู้ประกอบการมีภาระต้นทุนในการประกอบการที่ต่ำลง และไม่ก่อให้เกิดความซ้ำซ้อนในการจัดเก็บภาษี
ผู้มีหน้าที่ต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่ม
ผู้ประกอบกิจการที่มีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการเป็นปกติธุระ เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ ซึ่งมีแผนงานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ได้มีการดำเนินการ และเตรียมการประกอบกิจการอันเป็นเหตุให้ต้องมีการซื้อสินค้า หรือรับบริการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น การก่อสร้างโรงงาน ก่อสร้างอาคารสำนักงาน หรือการติดตั้งเครื่องจักร
ผู้ประกอบการอยู่นอกราชอาณาจักร และได้ขายสินค้าหรือให้บริการในราชอาณาจักรเป็นปกติธุระ โดยมีตัวแทนอยู่ในราชอาณาจักร ให้ตัวแทนเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบการจดทะเบียน
ธุรกิจที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าพืชผลทางการเกษตร สัตว์ไม่ว่ามีชีวิตหรือไม่มีชีวิต ปุ๋ย ปลาป่นอาหารสัตว์ ยาหรือเคมีภัณฑ์ที่ใช้สำหรับพืชหรือสัตว์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือตำราเรียน
ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ ซึ่งไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมายและมีรายรับไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี
การให้บริการขนส่งในราชอาณาจักรโดยท่าอากาศยาน
การส่งออกของผู้ประกอบการในเขตอุตสาหกรรมส่งออกตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
การให้บริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางท่อในราชอาณาจักร
เอกสารที่ใช้จดภาษีมูลค่าเพิ่ม
การยื่นแบบคำขอด้วยกระดาษโดยยื่นขอจดทะเบียน ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ แบบคำขอจดทะเบียนมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร (ภ.พ.01) จำนวน 3 ฉบับ พร้อมลายเซ็นผู้มีอำนาจลงนาม
หลักฐานแสดงที่ตั้งของสถานประกอบการ ได้แก่
1. สัญญาเช่าอาคารที่เป็นที่ตั้งสถานประกอบการปิดอากรแสตมป์ (กรณีเช่า) หรือหนังสือยิยอมให้ใช้สถานที่เป็นสถานประกอบการ (กรณีเจ้าของให้ใช้โดยไม่ได้ค่าตอบแทน)
2. สำเนาทะเบียนบ้านที่ตั้งสถานประกอบการ
3. สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่า/ผู้ยินยอม เช่น การเป็นเจ้าบ้าน สัญญาซื้อขาย คำขอเลขที่บ้าน ใบโอนกรรมสิทธิ์ สัญญาเช่าช่วง
4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านสถานประกอบการของผู้ให้เช่าหรือผู้ยินยอม หนังสือรับรองนิติบุคคล (กรณีนิติบุคคลเป็นผู้ให้เช่า)
5. แผนที่แสดงที่ตั้งของสถานประกอบการโดยสังเขป พร้อมภาพถ่ายสถานประกอบการที่แสดงให้เห็นบ้านเลขที่
6. หนังสือมอบอำนาจปิดอากรแสตมป์ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้มีอำนาจลงนาม
8. สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทพร้อมวัตถุประสงค์
-
บริการรับจดทะเบียนบริษัท ครบวงจร พร้อมบริการให้คำแนะนำปรึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริการตั้งแต่จัดตั้งบริษัท แก้ไขทะเบียนนิติบุคคล เปลี่ยนแปลงกรรมการ เปลี่ยนแปลงที่อยู่บริษัท แก้ไขเพ...
-
ท่านที่กำลังตัดสินใจปรับเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจจากร้าค้าทะเบียนพาณิชย์ (บุคคลธรรมดา) มาเป็นรูปแบบนิติบุคคล (บริษัท หรือ หจก.) เพื่อการจัดการด้านบัญชีและภาษีให้ถูกต้องและมี...
-
จดทะเบียนบริษัท หรือ หจก ดี? เป็นคำถามยอดนิยมสำหรับผู้เริ่มต้นใหม่ที่มักจะสอบถามกับทีมงานของเราอยู่เสมอ ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาเรามักจะแนะนำให้ลูกค้าจดทะเบียนเป็นบริษัทมากกว่า โ...
-
จดทะเบียนประกันสังคมตอนไหน กรณีมีพนักงานตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป มีหน้าที่ต้องขึ้นทะเบียนนายจ้างพร้อมกับขึ้นทะเบียนลูกจ้าง เพื่อเป็นผู้ประกันตนภายใน 30 วัน และกรณีรับลูกจ้างใหม่ต้องแจ้งข...
-
ตราประทับจะมีภาพโลโก้อย่างเดียวก็ได้ ถ้าจะมีชื่อในดวงตราประทับนั้นต้องตรงกับชื่อที่ขอจดทะเบียน ส่วนชื่อภาษาอังกฤษก็ต้องตรงกับที่ขอใช้ในต้องจองชื่อกิจการ และต้องมีคำแสดงประเภทของนิต...