เปรียบเทียบ บริษัทจำกัด VS หจก.: เลือกประเภทธุรกิจแบบไหนดีที่สุด

สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังจะเริ่มต้นธุรกิจ คำถามที่ต้องตัดสินใจตั้งแต่ก้าวแรกคือ ควรจดทะเบียนเป็น บริษัทจำกัด (บจก.) หรือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ดี? การเลือกประเภทธุรกิจที่เหมาะสมมีผลโดยตรงต่อ ข้อกฎหมาย ภาษี และความรับผิดชอบในหนี้สิน ของคุณ

บทความนี้จะสรุป 4 ข้อแตกต่างสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถประกอบการตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและมั่นใจในแผนธุรกิจระยะยาว


1. ความรับผิดชอบในหนี้สิน (ปัจจัยสำคัญที่สุด)

นี่คือความแตกต่างหลักที่ส่งผลต่อความเสี่ยงของทรัพย์สินส่วนตัว:

บริษัทจำกัด (บจก.): จำกัดความรับผิดชอบ

  • ความรับผิดชอบ: ผู้ถือหุ้นจะรับผิดชอบหนี้สินของบริษัทเพียง ไม่เกินจำนวนเงินค่าหุ้นที่ยังชำระไม่ครบ ทำให้ทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ถือหุ้นมีความปลอดภัยสูง (ความเสี่ยงต่ำ)
  • ผู้ก่อตั้ง: ต้องมีผู้ก่อตั้งตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป

ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.): มีทั้งจำกัดและไม่จำกัด

  • หุ้นส่วนจำกัดความรับผิด: รับผิดชอบหนี้สินเพียง ไม่เกินจำนวนเงินที่ตนเองลงหุ้น
  • หุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิด: รับผิดชอบหนี้สินทั้งหมดของห้างหุ้นส่วน โดยไม่จำกัดจำนวน ซึ่งหมายถึงอาจต้องใช้ทรัพย์สินส่วนตัวมาชดใช้หนี้สินของกิจการ
  • ผู้ก่อตั้ง: ต้องมีผู้เป็นหุ้นส่วนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และต้องมีหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดอย่างน้อย 1 คน

2. โครงสร้าง, การบริหาร และความน่าเชื่อถือ

บริษัทจำกัด (บจก.):

  • โครงสร้าง: เป็นทางการ มีคณะกรรมการบริหาร, ผู้ถือหุ้น, และที่ประชุมผู้ถือหุ้น
  • ความน่าเชื่อถือ: สูงกว่า เหมาะสำหรับการ ระดมทุน หรือติดต่อกับสถาบันการเงินขนาดใหญ่

ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.):

  • โครงสร้าง: ยืดหยุ่น ไม่ซับซ้อน หุ้นส่วนสามารถตกลงกันเองในการบริหารจัดการได้ง่ายกว่า
  • ความน่าเชื่อถือ: น้อยกว่า บจก. เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่บริหารงานกันเองในกลุ่มที่ไว้วางใจ

3. ภาระภาษี (หลักการเดียวกันแต่รายละเอียดต่างกัน)

ทั้ง บจก. และ หจก. ต้องเสีย ภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามอัตราเดียวกัน แต่ขั้นตอนการกระจายกำไรสู่เจ้าของแตกต่างกัน:

  • บจก. (จ่ายเงินปันผล): กำไรของบริษัทเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลก่อน เมื่อจ่ายเงินปันผล ผู้ถือหุ้นจะต้องเสีย ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อีกครั้ง (อาจมีเครดิตภาษี)
  • หจก. (แบ่งกำไร): กำไรของห้างหุ้นส่วนเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล เมื่อแบ่งกำไรให้หุ้นส่วนแล้ว หุ้นส่วนจะต้องนำรายได้ส่วนนี้ไปคำนวณ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต่อไป

บทสรุป: เลือกแบบไหนดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ?

การตัดสินใจควรขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลัก:

  • เลือก บริษัทจำกัด (บจก.) หาก:
    • คุณต้องการ จำกัดความเสี่ยงในทรัพย์สินส่วนตัว 100%
    • มีแผนที่จะ ระดมทุน หรือ ขยายธุรกิจ ในอนาคต
  • เลือก ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) หาก:
    • คุณเริ่มต้นกับเพื่อนหรือคนรู้จักที่ ไว้วางใจกันสูง
    • ต้องการ ความยืดหยุ่น และโครงสร้างการบริหารที่ง่ายกว่า

การตัดสินใจที่ดีที่สุดคือการพิจารณาจาก แผนธุรกิจในระยะยาว และระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและยั่งยืน

Visitors: 2,123,792