ทำไม SME ต้องใส่ใจเรื่องภาษี?
การบริหารจัดการภาษีอย่างถูกต้องไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นและสอดคล้องกับกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการวางแผนเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับกิจการในระยะยาว การอัปเดตข้อมูลภาษีอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการ SME ไม่ควรมองข้าม
ประเด็นภาษีสำคัญที่ SME ควรรู้ (อัปเดต เมษายน 2568)
1. เกณฑ์รายได้สำหรับการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
ข้อมูลอัปเดต:
ยังคงเดิม หากธุรกิจของคุณมีรายได้จากการขายสินค้าหรือให้บริการเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี มีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีรายได้เกิน
สิ่งที่ต้องรู้:
- การจดทะเบียน VAT ทำให้ธุรกิจของคุณต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากลูกค้าในอัตราร้อยละ 7 และมีหน้าที่ยื่นแบบ ภ.พ.30 เป็นรายเดือน
- ผู้ประกอบการที่จดทะเบียน VAT สามารถนำภาษีซื้อ (VAT ที่จ่ายให้ผู้ขายสินค้าหรือบริการ) มาหักออกจากภาษีขายได้
- การไม่จดทะเบียน VAT เมื่อมีรายได้เกินเกณฑ์ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและอาจมีบทลงโทษ
2. อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล (CIT) สำหรับ SME
ข้อมูลอัปเดต:
ณ ปัจจุบัน อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับ SME ยังคงเป็นไปตามหลักเกณฑ์เดิม โดยแบ่งตามช่วงกำไรสุทธิ ดังนี้:
- กำไรสุทธิไม่เกิน 300,000 บาท: ยกเว้นภาษี
- กำไรสุทธิส่วนที่เกิน 300,000 บาท แต่ไม่เกิน 3,000,000 บาท: อัตราภาษีร้อยละ 15
- กำไรสุทธิส่วนที่เกิน 3,000,000 บาท: อัตราภาษีร้อยละ 20
สิ่งที่ต้องรู้:
- SME ที่จะได้รับสิทธิอัตราภาษีพิเศษ ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท
- การยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50 สำหรับรอบบัญชีปกติ และ ภ.ง.ด.51 สำหรับครึ่งรอบบัญชี) ต้องดำเนินการตามกำหนดเวลา
3. ความสำคัญของการหักภาษี ณ ที่จ่าย (Withholding Tax)
ข้อมูลอัปเดต:
หลักเกณฑ์และอัตราการหักภาษี ณ ที่จ่ายยังคงมีการบังคับใช้อย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการต้องทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
สิ่งที่ต้องรู้:
- เมื่อจ่ายเงินได้พึงประเมินบางประเภทตามที่กฎหมายกำหนด (เช่น ค่าบริการ, ค่าเช่า, ค่าโฆษณา, ค่าขนส่ง) ให้แก่ผู้รับที่เป็นนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดา จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราที่กฎหมายกำหนด และนำส่งกรมสรรพากรด้วยแบบ ภ.ง.ด.3 (สำหรับบุคคลธรรมดา) หรือ ภ.ง.ด.53 (สำหรับนิติบุคคล) ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป
- การออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (มาตรา 50 ทวิ) ให้แก่ผู้รับเงิน เป็นหน้าที่ของผู้จ่ายเงินทุกครั้งที่มีการหักภาษี
- การไม่หักภาษี ณ ที่จ่าย หรือนำส่งล่าช้า อาจมีเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และบทลงโทษตามกฎหมาย
4. มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริม SME (ควรติดตาม)
ข้อมูลอัปเดต:
ภาครัฐอาจมีมาตรการทางภาษีต่างๆ ออกมาเพื่อช่วยเหลือและส่งเสริมผู้ประกอบการ SME เป็นระยะๆ ผู้ประกอบการจึงควรติดตามข่าวสารและประกาศจากกรมสรรพากรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
ตัวอย่างมาตรการที่อาจเกิดขึ้น (เพื่อเป็นแนวทาง):
- การลดหย่อนภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายบางประเภท (เช่น ค่าจ้างงานผู้สูงอายุ, ค่าอบรมพนักงาน)
- การยกเว้นหรือลดอัตราภาษีสำหรับธุรกิจบางกลุ่ม หรือในพื้นที่ส่งเสริมการลงทุน
- การสนับสนุนการลงทุนในเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต
สิ่งที่ต้องรู้:
เงื่อนไขและรายละเอียดของมาตรการเหล่านี้จะแตกต่างกันไป และมักมีระยะเวลาการใช้สิทธิที่จำกัด ผู้ประกอบการควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างถูกต้องและครบถ้วน
5. การยื่นภาษีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing)
ข้อมูลอัปเดต:
กรมสรรพากรส่งเสริมและผลักดันให้ผู้ประกอบการหันมายื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing, e-Payment) มากยิ่งขึ้น เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และลดการใช้กระดาษ ระบบอาจมีการปรับปรุงหรือเพิ่มเติมฟังก์ชันใหม่ๆ อยู่เสมอ
สิ่งที่ต้องรู้:
- การยื่นภาษีออนไลน์ช่วยให้สะดวก รวดเร็ว สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา และลดความผิดพลาดในการกรอกข้อมูล
- ผู้ประกอบการควรศึกษาและทำความคุ้นเคยกับการใช้งานระบบ e-Filing ของกรมสรรพากร (efiling.rd.go.th)
- การมีลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) หรือการยืนยันตัวตนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่กรมสรรพากรกำหนด อาจจำเป็นสำหรับการทำธุรกรรมทางภาษีออนไลน์บางประเภท
6. ประเด็นภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจออนไลน์ (e-Commerce)
ข้อมูลอัปเดต:
ธุรกิจออนไลน์ (e-Commerce) มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเด็นทางภาษีที่เกี่ยวข้องมีความสำคัญและถูกจับตามองมากขึ้น ทั้งจากผู้ประกอบการและหน่วยงานภาครัฐ
สิ่งที่ต้องรู้:
- ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหรือให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ (เว็บไซต์, แอปพลิเคชัน, โซเชียลมีเดีย) ยังคงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีตามกฎหมายเช่นเดียวกับธุรกิจทั่วไป (เช่น ภาษีเงินได้, ภาษีมูลค่าเพิ่มหากรายได้ถึงเกณฑ์)
- การรับชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อาจมีผลต่อการตรวจสอบข้อมูลรายได้จากกรมสรรพากร
- กฎหมาย e-Service ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ให้บริการต่างชาติที่ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้ใช้ในไทย
- การทำความเข้าใจเรื่องภาษีสำหรับธุรกิจออนไลน์เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการดำเนินงานที่ถูกต้องและหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต
คำแนะนำสำคัญสำหรับผู้ประกอบการ SME
- ติดตามข่าวสารภาษีอย่างสม่ำเสมอ: จากเว็บไซต์กรมสรรพากร (www.rd.go.th), ประกาศต่างๆ และแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
- ทำความเข้าใจประเภทภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ: ไม่ว่าจะเป็น VAT, CIT, ภาษีหัก ณ ที่จ่าย หรือภาษีอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง
- วางแผนภาษีล่วงหน้าอย่างรอบคอบ: การวางแผนที่ดีจะช่วยให้คุณบริหารจัดการภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อย่างเต็มที่
- จัดทำบัญชีอย่างถูกต้องและเป็นปัจจุบัน: ข้อมูลทางบัญชีที่ถูกต้องและครบถ้วนเป็นพื้นฐานสำคัญในการคำนวณและยื่นภาษีอย่างถูกต้อง
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีและภาษี: หากคุณมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับประเด็นทางภาษี การปรึกษาสำนักงานบัญชีที่มีความเชี่ยวชาญเช่น บริษัท ธนาคม แอดไวซ์เซอร์รี่ จำกัด เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
ธนาคม แอดไวซ์เซอร์รี่ พร้อมเป็นที่ปรึกษาด้านภาษีสำหรับธุรกิจคุณ
ข้อมูลภาษีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การเตรียมพร้อมและวางแผนที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจ SME ของคุณดำเนินงานได้อย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยง และเติบโตอย่างยั่งยืน ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีและภาษีของ บริษัท ธนาคม แอดไวซ์เซอร์รี่ จำกัด พร้อมให้คำปรึกษาและบริการที่ครอบคลุม เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณจัดการเรื่องภาษีได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ
หากคุณมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้เลย!
ติดต่อรับคำปรึกษาฟรีข้อควรทราบ: ข้อมูลในบทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางเบื้องต้น ณ เดือนเมษายน 2568 เท่านั้น กฎหมาย ระเบียบ และประกาศต่างๆ ทางภาษีอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลล่าสุดและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกรมสรรพากรอีกครั้ง หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อความถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์เฉพาะของธุรกิจท่าน