
คำถามยอดฮิตสำหรับผู้ประกอบการ SME หลายท่าน โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นธุรกิจหรือช่วงที่กิจการยังไม่มีรายได้เข้ามา คือ "ถ้าบริษัทไม่มีรายได้ ยังจำเป็นต้องยื่นภาษีและงบการเงินอยู่หรือไม่?" คำตอบสั้นๆ คือ "ใช่" ครับ แม้ว่าธุรกิจของคุณจะยังไม่มีรายได้หรือมีผลขาดทุน การปฏิบัติตามหน้าที่ทางกฎหมายด้านบัญชีและภาษียังคงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง บทความนี้จาก บริษัท ธนาคม แอดไวซ์เซอร์รี่ จำกัด จะช่วยไขข้อสงสัย พร้อมแนะนำแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง เพื่อให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นและหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจตามมา
ทำความเข้าใจ: ทำไมธุรกิจที่ "ไม่มีรายได้" ยังต้องเกี่ยวข้องกับภาษี?
เมื่อคุณจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ธุรกิจของคุณจะมีสถานะเป็น "นิติบุคคล" ซึ่งแยกต่างหากจากตัวคุณในฐานะบุคคลธรรมดา สถานะความเป็นนิติบุคคลนี้มาพร้อมกับหน้าที่และความรับผิดชอบตามกฎหมาย รวมถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านบัญชีและภาษีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าธุรกิจจะมีรายได้หรือไม่มีก็ตาม
- การคงสถานะความเป็นนิติบุคคล: การยื่นแบบภาษีและงบการเงินเป็นการยืนยันว่านิติบุคคลของคุณยังคงดำเนินอยู่ (แม้จะยังไม่มีการประกอบการ) และไม่ได้ถูกทอดทิ้ง
- การรักษาข้อมูลให้เป็นปัจจุบันกับหน่วยงานราชการ: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) และกรมสรรพากร ต้องการข้อมูลที่เป็นปัจจุบันของนิติบุคคลเพื่อการกำกับดูแลและตรวจสอบ
- การป้องกันปัญหาทางกฎหมายและค่าปรับในอนาคต: การละเลยหน้าที่เหล่านี้อาจนำไปสู่ค่าปรับ เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม หรือแม้กระทั่งการถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนนิติบุคคล
- ความน่าเชื่อถือของธุรกิจ: การปฏิบัติตามกฎหมายอย่างสม่ำเสมอช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณ ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อต้องการติดต่อกับสถาบันการเงิน คู่ค้า หรือเมื่อธุรกิจเริ่มมีรายได้และต้องการขยายกิจการ
หน้าที่ทางภาษีและบัญชีที่สำคัญ แม้ธุรกิจยังไม่มีรายได้
สำหรับนิติบุคคล (บริษัทจำกัด หรือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด) แม้จะยังไม่มีรายได้เกิดขึ้น ก็ยังคงมีหน้าที่หลักๆ ดังนี้:
1. การยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล
- ภ.ง.ด. 51 (การยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี): ต้องยื่นภายใน 2 เดือนนับแต่วันสุดท้ายของ 6 เดือนแรกของรอบระยะเวลาบัญชี (สำหรับรอบบัญชีปกติ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค. จะต้องยื่นภายในวันที่ 31 สิงหาคม ของทุกปี) แม้จะไม่มีรายได้หรือคาดการณ์ว่าจะไม่มีกำไร ก็ต้องยื่น "แบบเปล่า" หรือประมาณการผลขาดทุน
- ภ.ง.ด. 50 (การยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี): ต้องยื่นภายใน 150 วันนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี (สำหรับรอบบัญชีปกติ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค. จะต้องยื่นภายในวันที่ 30 พฤษภาคม ของปีถัดไป) พร้อมแนบงบการเงินที่ได้รับการตรวจสอบและแสดงความเห็นโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA) (ยกเว้น หจก. ขนาดเล็กบางกรณี) หากไม่มีรายได้และมีแต่ค่าใช้จ่าย ก็จะเป็นการยื่นแสดงผลขาดทุน
2. การจัดทำและยื่นงบการเงินประจำปี
นิติบุคคลมีหน้าที่ต้องจัดทำงบการเงินอย่างน้อยปีละครั้ง (ณ วันสิ้นรอบบัญชี) ซึ่งประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน, งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ, งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น (ถ้ามี), และหมายเหตุประกอบงบการเงิน งบการเงินนี้ต้องได้รับการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA) และนำส่งต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่:
- กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD): ยื่นภายใน 5 เดือนนับแต่วันสิ้นรอบบัญชี (ผ่านระบบ DBD e-Filing)
- กรมสรรพากร: ยื่นพร้อมแบบ ภ.ง.ด. 50
3. (ถ้ามี) การยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
หากธุรกิจของคุณได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ไว้แล้ว แม้ในเดือนนั้นๆ จะยังไม่มีรายได้หรือรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับ VAT ก็ตาม คุณยังคงมีหน้าที่ต้องยื่นแบบ ภ.พ.30 (แบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม) เป็น "แบบเปล่า" (Nil Return) ทุกเดือน ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป จนกว่าจะมีการแจ้งยกเลิกการจดทะเบียน VAT อย่างเป็นทางการ
4. (ถ้ามี) การยื่นแบบภาษีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
เช่น ภาษีป้าย (หากมีการติดตั้งป้ายชื่อบริษัท), ภาษีโรงเรือนและที่ดิน (หากเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ประกอบกิจการ - ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) หรือภาษีหัก ณ ที่จ่าย (หากมีการจ่ายเงินได้บางประเภทที่ต้องหักภาษี)
ผลกระทบและบทลงโทษ หากละเลยการยื่นภาษีและงบการเงิน
การไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ทางภาษีและบัญชี แม้ธุรกิจจะยังไม่มีรายได้ อาจนำไปสู่ผลกระทบเชิงลบและบทลงโทษตามกฎหมาย ดังนี้:
- ค่าปรับอาญาและค่าปรับทางแพ่ง:
- ค่าปรับกรณียื่นแบบภาษี (ภ.ง.ด.50, ภ.ง.ด.51, ภ.พ.30) ล่าช้าหรือไม่ยื่น: อาจมีโทษปรับอาญาไม่เกิน 2,000 บาทต่อแบบ และอาจมีเบี้ยปรับทางแพ่งอีก 1-2 เท่าของภาษีที่ต้องชำระ (ถ้ามี)
- ค่าปรับกรณียื่นงบการเงินล่าช้าหรือไม่ยื่นต่อ DBD: อาจมีโทษปรับทั้งกรรมการและตัวนิติบุคคล
- เงินเพิ่ม (Surcharge): กรณีมีภาษีที่ต้องชำระแต่ชำระล่าช้า จะต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องชำระ
- การถูกประเมินภาษีย้อนหลัง: หากกรมสรรพากรตรวจพบว่าไม่ได้ยื่นแบบหรือยื่นไม่ถูกต้อง อาจมีการประเมินภาษีย้อนหลังตามที่เห็นสมควร
- สถานะ "ร้าง" หรือการถูกขีดชื่อออกจากทะเบียน: หากนิติบุคคลละเลยการยื่นงบการเงินและแบบภาษีเป็นเวลานาน กรมพัฒนาธุรกิจการค้าอาจพิจารณาสถานะเป็น "ร้าง" และดำเนินการขีดชื่อออกจากทะเบียนในที่สุด ซึ่งทำให้สิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคล
- ปัญหาในการดำเนินธุรกรรมทางธุรกิจ: การขาดความน่าเชื่อถือจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย อาจทำให้เกิดปัญหาในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน การติดต่อทำธุรกิจกับคู่ค้า หรือการเข้าร่วมประมูลงานต่างๆ
- ความรับผิดชอบของกรรมการ: ในบางกรณี กรรมการผู้จัดการหรือผู้มีอำนาจของนิติบุคคลอาจต้องร่วมรับผิดชอบต่อค่าปรับหรือความเสียหายที่เกิดขึ้น
แนวทางปฏิบัติสำหรับ SME ที่ยังไม่มีรายได้ (หรือมีรายได้น้อย)
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีและภาษี: การได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องจากสำนักงานบัญชีหรือผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้คุณเข้าใจหน้าที่และดำเนินการได้อย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงจากข้อผิดพลาด
- จัดทำบัญชีเบื้องต้นอย่างสม่ำเสมอ: แม้จะยังไม่มีรายได้ แต่ธุรกิจอาจมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น เช่น ค่าธรรมเนียมธนาคาร, ค่าเช่า (ถ้ามี), หรือค่าใช้จ่ายในการเตรียมการต่างๆ ควรมีการบันทึกรายการเหล่านี้ไว้เพื่อประโยชน์ในการจัดทำงบการเงิน
- ติดตามกำหนดการยื่นแบบภาษีและงบการเงินอย่างเคร่งครัด: ตั้งระบบแจ้งเตือนหรือมอบหมายให้ผู้รับผิดชอบดูแล เพื่อไม่ให้พลาดกำหนดการสำคัญ
- พิจารณาการ "แจ้งหยุดประกอบกิจการชั่วคราว" (ถ้าเหมาะสม): หากคาดการณ์ว่าจะไม่มีการดำเนินงานหรือไม่มีรายได้เป็นระยะเวลานาน (เช่น มากกว่า 1 ปี) การแจ้งหยุดประกอบกิจการชั่วคราวต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากร อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดภาระการยื่นแบบบางประเภทได้ (แต่ยังมีหน้าที่บางอย่างคงอยู่ เช่น การยื่นงบการเงิน) ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญถึงข้อดีข้อเสียและเงื่อนไข
- การเตรียมตัวปิดกิจการอย่างถูกต้อง (หากตัดสินใจเลิก): หากคุณตัดสินใจที่จะไม่ดำเนินธุรกิจต่อ ควรดำเนินการจดทะเบียนเลิกกิจการและชำระบัญชีให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้มีภาระผูกพันทางภาษีหรือกฎหมายตามมาในอนาคต
ให้ "บริษัท ธนาคม แอดไวซ์เซอร์รี่ จำกัด" ช่วยดูแลเรื่องภาษีและบัญชีของคุณ
ไม่ว่าธุรกิจ SME ของคุณจะอยู่ในช่วงเริ่มต้น ยังไม่มีรายได้ หรือกำลังเติบโต การจัดการด้านบัญชีและภาษีอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ บริษัท ธนาคม แอดไวซ์เซอร์รี่ จำกัด พร้อมให้บริการและให้คำปรึกษาที่ครอบคลุม เพื่อช่วยให้คุณ:
✔ ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายด้านบัญชีและภาษีได้อย่างถูกต้องครบถ้วน
✔ ลดความกังวลและภาระงานเอกสารที่ซับซ้อน
✔ วางแผนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัด
✔ มีข้อมูลทางการเงินที่น่าเชื่อถือเพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ
ให้เราเป็นเพื่อนคู่คิดและผู้ช่วยคนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของคุณสู่ความสำเร็จ!
ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาฟรีข้อควรทราบ: ข้อมูลในบทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางเบื้องต้น ณ เดือนเมษายน 2568 เท่านั้น กฎหมาย ระเบียบ และประกาศต่างๆ ทางภาษีอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลล่าสุดและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกรมสรรพากรอีกครั้ง หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อความถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์เฉพาะของธุรกิจท่าน