ภาษีหัก ณ ที่จ่ายเงินเดือน (ภงด.1)

สำหรับเจ้าของธุรกิจ การจัดการภาษีเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำให้ถูกต้อง ภาษีหัก ณ ที่จ่ายเงินเดือน (ภ.ง.ด.1) อาจดูซับซ้อน แต่ถ้าเข้าใจหลักการและขั้นตอนอย่างถูกต้องก็จะช่วยให้การบริหารจัดการราบรื่น บทความนี้จะสรุปทุกประเด็นที่คุณควรรู้

ภาษีหัก ณ ที่จ่ายเงินเดือนคืออะไร?

ภ.ง.ด.1 คือการที่นายจ้างหักภาษีจากเงินเดือนพนักงาน แล้วนำส่งให้กรมสรรพากรทุกเดือน เพื่อช่วยให้พนักงานทยอยชำระภาษีล่วงหน้า และเพื่อให้รัฐบาลมีรายได้สม่ำเสมอ

หน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้อง

• นายจ้าง: มีหน้าที่คำนวณ หักภาษี และนำส่ง ภ.ง.ด.1 ให้กรมสรรพากรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป (หรือวันที่ 15 หากยื่นออนไลน์) พร้อมออกหนังสือรับรอง 50 ทวิ ให้พนักงานตอนสิ้นปี
• ลูกจ้าง: มีหน้าที่แจ้งรายการลดหย่อนให้นายจ้างทราบ เพื่อใช้ในการคำนวณภาษี และยื่นภาษีประจำปี (ภ.ง.ด.90/91) เพื่อสรุปยอดภาษีที่แท้จริง

ขั้นตอนการคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย

การคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายเงินเดือน มี 3 ขั้นตอนหลัก:

ขั้นตอนที่ 1: หักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน

นำเงินเดือนทั้งปีมาหักด้วย ค่าใช้จ่าย (50% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาท) และ ค่าลดหย่อน ต่างๆ ที่พนักงานมีสิทธิ์ เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท, เบี้ยประกันสังคม, ค่าลดหย่อนบุตร ฯลฯ

ขั้นตอนที่ 2: คำนวณภาษีทั้งปี

นำเงินได้สุทธิที่ได้จากขั้นตอนแรก ไปคำนวณตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบขั้นบันได (Progressive Rate) ตั้งแต่ 5% ถึง 35% โดยเงินได้สุทธิ 150,000 บาทแรกได้รับการยกเว้นภาษี

ขั้นตอนที่ 3: คำนวณภาษีรายเดือน

นำยอดภาษีที่คำนวณได้ทั้งปีมาหารด้วย 12 ก็จะได้ยอดภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ต้องนำส่งในแต่ละเดือน

ตัวอย่างการคำนวณ

สมมติ: พนักงานเงินเดือน 35,000 บาท มีสิทธิลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท และประกันสังคม 9,000 บาทต่อปี

1. เงินได้ทั้งปี: 35,000 x 12 = 420,000 บาท
2. เงินได้สุทธิ: 420,000 - (ค่าใช้จ่าย 100,000) - (ค่าลดหย่อน 60,000+9,000) = 251,000 บาท
3. คำนวณภาษีทั้งปี: ส่วนที่ไม่เกิน 150,000 บาท ได้รับการยกเว้น ส่วนที่เกิน (101,000 บาท) เสียภาษี 5% = 5,050 บาท
4. ภาษีรายเดือน: 5,050 ÷ 12 = 420.83 บาท

เคล็ดลับเพิ่มเติม

• แจ้งรายการลดหย่อนให้นายจ้างทราบทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลง
• ใช้โปรแกรมบัญชีหรือโปรแกรมคำนวณของกรมสรรพากรเพื่อความแม่นยำ
• ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีหากมีข้อสงสัย