สัญญาเช่าอาคาร | ดาวน์โหลดแบบฟอร์มบัญชีและอื่นๆ
ดาวน์โหลดตัวอย่างสัญญาเช่าอาคาร (ไฟล์ Word)
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ประกอบการ SME ที่กำลังมองหาสถานที่สำหรับธุรกิจ หรือเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ต้องการปล่อยเช่า สัญญาเช่าอาคาร (Building Lease Agreement) ถือเป็นเอกสารทางกฎหมายที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง สัญญาเช่าที่ดีและครอบคลุมจะช่วยกำหนดสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของทั้งผู้ให้เช่าและผู้เช่าอย่างชัดเจน ลดโอกาสเกิดข้อพิพาท และสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ราบรื่น บทความนี้จาก บริษัท ธนาคม แอดไวซ์เซอร์รี่ จำกัด จะพาคุณไปทำความเข้าใจองค์ประกอบสำคัญ เคล็ดลับ และข้อควรระวังในการจัดทำและตรวจสอบสัญญาเช่า พร้อมตัวอย่างที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้
ทำไมสัญญาเช่าอาคารจึงเป็นเครื่องมือสำคัญ?
สัญญาเช่าไม่ได้เป็นเพียงกระดาษแผ่นหนึ่ง แต่เป็นเกราะป้องกันและเครื่องมือสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างผู้ให้เช่าและผู้เช่า:
- กำหนดสิทธิและหน้าที่ชัดเจน: ระบุว่าใครมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง เช่น ใครเป็นผู้รับผิดชอบค่าซ่อมแซม การจ่ายค่าสาธารณูปโภค หรือการดูแลรักษาทรัพย์สิน
- ป้องกันความเข้าใจผิดและข้อพิพาท: การมีข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรช่วยลดโอกาสในการตีความที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจนำไปสู่ข้อขัดแย้งในอนาคต
- เป็นหลักฐานทางกฎหมาย: สามารถใช้เป็นหลักฐานสำคัญหากเกิดกรณีพิพาทหรือต้องดำเนินการทางกฎหมาย
- สร้างความมั่นคงและความแน่นอน: ทั้งผู้เช่าและผู้ให้เช่าจะทราบถึงระยะเวลาการเช่า อัตราค่าเช่า และเงื่อนไขสำคัญอื่นๆ ทำให้สามารถวางแผนธุรกิจหรือการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินได้อย่างมั่นใจ
- ช่วยในการบริหารจัดการทรัพย์สิน: สำหรับผู้ให้เช่า สัญญาเช่าช่วยในการบริหารจัดการผู้เช่าหลายรายได้อย่างเป็นระบบ
องค์ประกอบสำคัญที่ต้องมีในสัญญาเช่าอาคารที่ดี
เพื่อให้สัญญาเช่าของคุณมีความสมบูรณ์และครอบคลุม ควรมีรายละเอียดสำคัญดังต่อไปนี้:
- 1. ข้อมูลคู่สัญญา (Parties Involved):
ระบุชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, และข้อมูลติดต่อที่ชัดเจนของทั้ง "ผู้ให้เช่า" (Landlord/Lessor) และ "ผู้เช่า" (Tenant/Lessee) หากเป็นนิติบุคคล ให้ระบุชื่อบริษัท เลขทะเบียนนิติบุคคล และชื่อผู้มีอำนาจลงนาม
- 2. รายละเอียดทรัพย์สินที่เช่า (Description of Leased Property):
ระบุที่ตั้งของอาคารหรือพื้นที่เช่าอย่างชัดเจน (เช่น เลขที่, ถนน, ตำบล, อำเภอ, จังหวัด), ขนาดพื้นที่ (ตารางเมตร), ลักษณะของทรัพย์สิน (เช่น อาคารพาณิชย์, พื้นที่สำนักงาน, โกดัง) และขอบเขตของพื้นที่ที่ให้เช่า (รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางหรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่ผู้เช่าสามารถใช้ได้)
- 3. วัตถุประสงค์การเช่า (Purpose of Lease):
ระบุว่าผู้เช่าจะนำทรัพย์สินไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด (เช่น ประกอบธุรกิจประเภท..., เป็นสำนักงาน, หรือเพื่อการอยู่อาศัย) เพื่อป้องกันการนำทรัพย์สินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ที่ตกลงกัน
- 4. ระยะเวลาการเช่า (Lease Term):
กำหนดวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดของสัญญาเช่าอย่างชัดเจน รวมถึงเงื่อนไขการต่ออายุสัญญา (Option to Renew) หากมี เช่น ต้องแจ้งความประสงค์ล่วงหน้ากี่วัน และอัตราค่าเช่าใหม่อาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
- 5. อัตราค่าเช่าและการชำระเงิน (Rent and Payment Terms):
ระบุจำนวนเงินค่าเช่าต่อเดือน/ต่อปี, สกุลเงิน, กำหนดวันชำระค่าเช่า, วิธีการชำระเงิน (เช่น โอนเข้าบัญชี, ชำระเป็นเช็ค), และผลของการชำระค่าเช่าล่าช้า (เช่น ค่าปรับ, ดอกเบี้ย)
- 6. เงินประกันการเช่า/เงินมัดจำ (Security Deposit):
ระบุจำนวนเงินประกัน, วัตถุประสงค์ในการเรียกเก็บ (เช่น เพื่อประกันความเสียหาย หรือการผิดสัญญา), และเงื่อนไขการคืนเงินประกันเมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่า
- 7. หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ให้เช่าและผู้เช่า (Obligations of Landlord and Tenant):
เช่น การบำรุงรักษาและซ่อมแซมทรัพย์สิน (ใครรับผิดชอบส่วนใด), การจ่ายค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต), การประกันภัยทรัพย์สิน, การปฏิบัติตามกฎระเบียบของอาคารหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- 8. การดัดแปลงหรือปรับปรุงพื้นที่เช่า (Alterations and Improvements):
กำหนดเงื่อนไขว่าผู้เช่าสามารถดัดแปลงหรือปรับปรุงพื้นที่เช่าได้หรือไม่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าก่อนหรือไม่ และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย รวมถึงกรรมสิทธิ์ในส่วนที่ต่อเติมเมื่อสิ้นสุดสัญญา
- 9. การโอนสิทธิการเช่าหรือการให้เช่าช่วง (Assignment and Subletting):
ระบุว่าผู้เช่าสามารถโอนสิทธิการเช่าหรือนำพื้นที่ไปให้ผู้อื่นเช่าช่วงได้หรือไม่ และต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขใดบ้าง
- 10. เงื่อนไขการบอกเลิกสัญญา (Termination Clauses):
กำหนดเหตุการณ์หรือเงื่อนไขที่ทั้งสองฝ่ายสามารถบอกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดได้ เช่น การผิดนัดชำระค่าเช่า, การใช้ทรัพย์สินผิดวัตถุประสงค์, หรือเหตุสุดวิสัย พร้อมระบุขั้นตอนการแจ้งบอกเลิกและผลของการเลิกสัญญา
- 11. ลายมือชื่อคู่สัญญาและพยาน (Signatures and Witnesses):
สัญญาต้องมีการลงลายมือชื่อของผู้ให้เช่า ผู้เช่า (หรือผู้มีอำนาจลงนามของนิติบุคคล) และพยานอย่างน้อยฝ่ายละ 1 คน พร้อมประทับตราบริษัท (ถ้ามี)
ข้อควรระวังและสิ่งที่ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนลงนามในสัญญาเช่า
- อ่านสัญญาให้ละเอียดทุกข้อ: ทำความเข้าใจทุกเงื่อนไขและข้อกำหนด หากมีข้อสงสัยหรือไม่ชัดเจน ควรถามผู้ให้เช่าหรือปรึกษาผู้มีความรู้ทางกฎหมาย
- ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล: ทั้งข้อมูลส่วนตัวของคู่สัญญา รายละเอียดทรัพย์สินที่เช่า อัตราค่าเช่า และระยะเวลาการเช่า
- ทำความเข้าใจเรื่องค่าใช้จ่ายแอบแฝง: สอบถามให้ชัดเจนว่ามีค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากค่าเช่าหรือไม่ เช่น ค่าส่วนกลาง, ค่าที่จอดรถ, หรือค่าธรรมเนียมอื่นๆ
- เงื่อนไขการซ่อมแซม: ใครเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมส่วนใดบ้าง (การสึกหรอตามปกติ vs. ความเสียหายจากการใช้งานของผู้เช่า)
- สิทธิในการต่อสัญญา: หากต้องการเช่าต่อในระยะยาว ตรวจสอบเงื่อนไขการต่อสัญญาให้ชัดเจน
- การคืนเงินประกัน: ทำความเข้าใจเงื่อนไขและระยะเวลาในการคืนเงินประกันเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลง
- การเปลี่ยนแปลงสัญญา: หากมีการตกลงแก้ไขหรือเพิ่มเติมเงื่อนไขใดๆ ควรทำเป็นลายลักษณ์อักษรและลงนามโดยทั้งสองฝ่าย
- ปรึกษาทนายความ (ถ้าจำเป็น): โดยเฉพาะสัญญาเช่าที่มีมูลค่าสูงหรือมีความซับซ้อน การปรึกษาทนายความจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าสิทธิของคุณได้รับการคุ้มครอง
เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับทั้งผู้ให้เช่าและผู้เช่า
- ✔สำหรับผู้ให้เช่า: ควรตรวจสอบประวัติและความน่าเชื่อถือของผู้เช่าเบื้องต้น และจัดทำสัญญาที่รัดกุมเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
- ✔สำหรับผู้เช่า: ควรอ่านและทำความเข้าใจสัญญาทุกข้อก่อนลงนาม ตรวจสอบสภาพทรัพย์สินก่อนเข้าอยู่ และเก็บหลักฐานการชำระค่าเช่าทุกครั้ง
- ✔สำหรับทั้งสองฝ่าย: ควรเก็บรักษาสัญญาเช่าและเอกสารที่เกี่ยวข้องไว้เป็นอย่างดี และสื่อสารกันด้วยความเข้าใจหากมีปัญหาเกิดขึ้น
-
ใบเสนอราคา: เครื่องมือสำคัญปิดการขายสำหรับ SME ในโลกธุรกิจที่แข่งขันสูง ใบเสนอราคา (Quotation) ไม่ได้เป็นเพียงเอกสารแจ้งราคา แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างความประทับใจและความน่...
-
ทำบัญชีเองหรือจ้างดี? ตัดสินใจง่าย ๆ สำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่ สำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่ การจัดการบัญชีเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่คำถามที่พบบ่อยที่สุดคือ "เราควรทำบัญชีเองห...
-
ความสำคัญของงบการเงิน: ทำไมเจ้าของธุรกิจถึงต้องรู้? สำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่หลายคน งบการเงิน อาจดูเป็นเรื่องยุ่งยากและน่าปวดหัว แต่ในความเป็นจริงแล้ว งบการเงินคือเครื่องมือที่สำค...
-
เจาะลึกเรื่องภาษี VAT: คู่มือสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังจะเริ่มต้นธุรกิจหรือเพิ่งเปิดบริษัท สิ่งหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจให้ถ่องแท้คือเรื่องของ ภาษีมูลค่าเพ...
-
เช็กลิสต์เอกสารจดทะเบียนบริษัท: เตรียมตัวให้พร้อมก่อนยื่น การเริ่มต้นธุรกิจด้วยการจดทะเบียนบริษัทเป็นก้าวสำคัญที่ต้องใช้ความรอบคอบ เพื่อให้ทุกขั้นตอนราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมาย การเ...
-
บริษัทจำกัด (บจก.) กับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.): เลือกแบบไหนดี? สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังจะเริ่มต้นธุรกิจ คำถามที่พบบ่อยคือควรจดทะเบียนเป็น บริษัทจำกัด (บจก.) หรือ ห้างหุ้นส่วนจำก...
-
ภาษีเงินได้นิติบุคคล: คู่มือฉบับ SME สำหรับเจ้าของธุรกิจ SME การเข้าใจเรื่อง "ภาษีเงินได้นิติบุคคล" เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างชาญฉลาดและเติบโตอย่างมั่นคง บทค...
-
คู่มือภาษีหัก ณ ที่จ่ายเงินเดือน (ภ.ง.ด.1) ฉบับเข้าใจง่ายสำหรับ SME สำหรับเจ้าของธุรกิจ การจัดการภาษีเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำให้ถูกต้อง ภาษีหัก ณ ที่จ่ายเงินเดือน (ภ.ง.ด.1) อาจดูซั...
-
วิธีเลือกโปรแกรมบัญชี: คู่มือสำหรับผู้ประกอบการ สำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่ การเลือก โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป ที่เหมาะสมคือหนึ่งในก้าวสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงและมีประ...
-
Express on Cloud: ยกระดับระบบบัญชีสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว ในยุคที่การทำงานแบบ Hybrid และ Work from Anywhere กลายเป็นเรื่องปกติ ธุรกิจของคุณพร้อมที่จะปรับตัวหรือยัง? Express on Cl...
-
สอนการใช้งานตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นสูงวิดีโอสอนใช้งานโปรแกรมบัญชี Express นี้คือคำตอบสำหรับคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักบัญชีมือใหม่หรือเจ้าของธุรกิจ คอร์สเรียนออนไลน์นี้จะพาคุณเจาะลึกทุก...
-
ทำไม SMEs ส่วนใหญ่ถึงเลือกใช้โปรแกรมบัญชี Express? สำหรับเจ้าของธุรกิจที่มองหาตัวช่วยด้านบัญชีและการเงินที่ไว้ใจได้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก โปรแกรมบัญชี Expressโปรแกรมที่ได้รับความนิยม...
-
สรุปค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียน: วางแผนงบประมาณให้พร้อม การเริ่มต้นธุรกิจด้วยการจดทะเบียนนิติบุคคลเป็นก้าวสำคัญที่ต้องใช้ความรอบคอบ หนึ่งในคำถามหลักที่ผู้ประกอบการควรรู้คือ "มีค่าใช้จ...